สามทหารเสือมิลาน

สโมสรฟุตบอลทุกทีม มักจะมีนักเตะในตำนานเสมอและนี่ก็เป็นอีกหนึ่งตำนาน ของสโมสร เอซีมิลาน ยักษ์ใหญ่ของวงการฟุตบอลอิตาลีในยุคนั้น

ที่พวกเค้าเคยมี สุดยอดสามทหารเสือชาวดัชต์ ร่วมทีมอยู่ด้วย ซึ่งถือว่านั่นคือยุคทองและยุคที่ประสบความสำเร็จของเอซี มิลานอย่างแท้จริง ซึ่งสามทหารเสือนี้ประกอบไปด้วย

มาร์โก แวนบาสเท่น ในตำแหน่งกองหน้า เริ่มเล่นกับอาแจ๊กซ์ ตั้งแต่อายุสิบหก และคว้าตำแหน่งดาวซัลโว สี่ปีติด และรองเท้าทองคำของทวีป กับแชมป์สามสมัยกับอาแจ๊กซ์

แฟร้งค์ ไรกาจด์ ในตำแหน่งกองหลัง เริ่มเล่นกับสโมสรอาแจ๊กซ์ ด้วยวัยแค่ สิบเจ็ดปี และคว้าแชมป์ลีกถึงสามสมัย และรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมสองสมัย

รุด กุลลิท ในตำแหน่งกองกลาง ที่เปรียบเสมือนหัวหน้าแกงค์ของสามทหารเสือนี้ เค้าเริ่มเล่นกับสโมสร ฮาเล่ม ด้วยวัยอายุสิบหก ก่อนย้ายมาเฟเยนูรด์ และพีเอสวี และคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยม สองสมัยของฮอลแลนด์

และความยิ่งใหญ่ของทั้งสาม ในปี 1987 เอซีมิลาน คว้า แวนบาสเท่น กับ รุดกุลิค ต่อด้วยปี 1988 แฟร้งไรกาจด์ ก็ย้ายตามมา และในฤดูกาลนั้นเองที่เหล่าสามทหารเสือได้มารวมตัวกัน พวกเค้าพา ทีมเอซีมิลาน คว้าแชมป์ยูโรเปี้ยนคัพได้เลยทีเดียว ต่อด้วยพวกเค้ายังไปต่อยอดกับทีมชาติฮอลแลนด์ ที่พวกเค้าสามทหารเสือร่วมกันประกาศศักดา พาทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติ แม้นัดแรกของการแข่งขันทีมฮอลแลนด์จะแพ้ไป เนื่องด้วยนัดนั้น มาร์โก้ แวนบาสเท่น ไม่ได้ลงสนาม

แต่พอมานัดที่สอง แวนบาสเท่น ก็ได้ลงเป็นตัวจริง และจากนั้น ทีมฮอลแลนด์ก็เครื่องติด คว้าชัยชนะ จนล้างอาถรรพ์ คว้าแชมป์รายการนี้ได้เป็นผลสำเร็จซะที โดยในรอบชิงชนะเลิศ มีลูกยิงระดับโลกที่ยังคงกล่าวขานกันจนถึงทุกวันนี้ นั่นคือ ลูกยิงใบไม้ร่วง ของมารโก้ แวนบาสเท่น ที่ยิงใส่ โซเวียต คู่ปรับเก่าของพวกเค้าในรอบแรกที่เอาชนะฮอลแลนด์มา จึงทำให้ฮอลแลนด์ล้างตาเป็นผลสำเร็จด้วยกการเอาชนะไปได้ สองประตูต่อศูนย์

ซึ่งเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ยามใดที่ฮอลแลนด์ ในยุคนั้น มีสามทหารเสืออยู่ในทีม นั่นหมายความว่า ฮอลแลนด์ สามารถเอาชนะชาติอื่นได้ทุกๆชาติ ในยุคนั้น

และในปีนั้นอีกถือว่าเป็นอีกเรื่องที่สุดยอดและยากที่จะเกิดขึ้น เมื่อทั้งสามคนนี้ ถูกรับเลือกให้มีชื่อติดบังลังค์ดอร์ แล้วกวาดรางวัลตั้งแต่อันดับหนึ่งถึงอันดับสามได้เลยทีเดียว โดยปีนั้นคนที่ได้อันดับหนึ่ง คือ แวนบาสเท่น ตามมาด้วย กุลลิท และแฟร้งค์ ไรการด์ ตามลำดับ ไม่น่าเชื่อจริงๆ ว่าจะมีนักเตะในทีมเดียวกันปีไหนที่จะทำได้แบบนี้อีก