ทำกระเป๋าตก เพื่อนบ้านนำกระเป๋ามาคืนแต่ทองคำหายไป

ทำกระเป๋าตก เพื่อนบ้านนำกระเป๋ามาคืนแต่ทองคำหายไป เพื่อนบ้านไม่คืนเจอยิงบาดเจ็บสาหัส

          มีเหตุการณ์เกิดขึ้นอันเนื่องมาจากสาเหตุการคืนของไม่ครบ โดยเรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีคนถูกยิงที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในจังนครราชสีมาเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงบ้านที่เกิดเหตุก็ได้พบกับผู้ชายคนนึงอายุประมาณ 29 ปี ชื่อว่าคุณสมชายโดยอยู่ในสภาพถูกยิงที่สะโพก 1 นัด

แต่มีปลอกกระสุนร่วงหลายนัดตรงบริเวณที่คุณสมชายยืนอยู่ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะมีการยิงหลายนัดแต่ไปโดนคุณสนใจแค่เพียงนัดเดียวเท่านั้น

ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามหาคนที่ยิงในสมชายจนพบว่าคนที่ยิงนายสมชายนั้นคือนายธวัชชัยซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของนายสมชายเองจึงได้มีการเชิญตัวนายธวัชชัยมาสอบปากคำ ซึ่งนายธวัชชัยให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าสาเหตุที่มีการยิงนายสมชายนั้นเนื่องจากว่าภรรยาของนายธวัชชัยได้ทำกระเป๋าร่วงและมีคนเห็นว่านายสมชายเป็นคนเก็บได้ดังนั้นตนเองจึงเดินทางมาที่บ้านนายสมชายเพื่อทำการทวงกระเป๋าคืนโดยนายสมชายได้นำกระเป๋ามาคืนให้แต่ปรากฏว่าของในกระเป๋าหายไป นายธวัชชัยได้ของไม่ครบจึงได้มีการทวงถามไปที่นายสมชายว่าสร้อยคอทองคำที่อยู่ในกระเป๋าหายไปไหน

ซึ่งนายสมชายอ้างว่าไม่เห็นทองในกระเป๋าดังกล่าว เลยสมชายเอาทองมาคืนแค่เพียงเส้นเดียวมูลค่า 2 บาทแต่ที่จริงแล้วในกระเป๋าของนายธวัชชัยนั้นมีทองอยู่หลายเส้นด้วยกันทำให้นายธวัชชัยเกิดความไม่พอใจที่นายสมชายหวังจะเอาทองของเขาจึงไม่มีการยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อทำการข่มขู่นายสมชายเพื่อหวังจะให้นายสมชายกลัวแล้วคืนทอง โดยนายธวัชชัยได้ยิงปืนใส่นายสมชายสิบกว่านัดแต่ด้วยนายสมชายวิ่งหนี

จึงถูกกระสุนปืนแค่เพียง 1 นัดเท่านั้นหลังจากกินเสร็จในธวัชชัยก็ขี่รถมอเตอร์ไซค์ขับออกไปจากบ้านของนายสมชายซึ่งเหตุการณ์ยิงกันในครั้งนี้แม่ของนายสมชายก็เห็นเหตุการณ์ แม่ของนายสมชายจึงได้มาสอบถามนายสมชายถึงเรื่องทองที่นายธวัชชัยถามถึงจนในที่สุดในสมชายจึงยอมรับสารภาพว่าได้นำทองของนายธวัชชัยมาจริงโดยนำไปซ่อนไว้ตรงต้นปาล์มและได้ให้พ่อของตนเอง

นำทองที่ขโมยมากับไปคืนนายธวัชชัย เหตุการณ์ในครั้งนี้จะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าหากว่านายสมชายพบกระเป๋าเงินเงินของคนอื่นแล้วนำไปคืนเจ้าของหรือถ้าหากไม่รู้ว่าเป็นของใครก็ควรฝากไว้ที่ร้านขายของที่กระเป๋าตกอยู่หน้าร้านนั้นและไม่ควรเอาของเขามาเพราะเจ้าของเขาย่อมรู้อยู่แล้วว่าในกระเป๋าสตางค์ของตนเองนั้นมีเงินหรือมีทองอยู่เท่าไหร่โดยเฉพาะยิ่งเป็นเพื่อนบ้านที่รู้จักพบเจอหน้ากันอยู่บ่อยๆไม่ควรทำแบบนี้เพราะจะทำให้มีปัญหาขัดแย้งกันได้